Tenes
ก่อนอื่นเราดูตารางคร่าวๆ
ก็จะเห็นว่าตารางนี้ มี 4 คอลัมน์ กับอีก 3 แถว
รวมทั้งหมดไฝว้กันออกมาได้เป็น 12 ช่อง
โดยที่หัวตารางด้านบนในแนวตั้ง
จะเป็นสิ่งที่เรียกว่า tense
จะมี 4 อัน คือ
1. Simple 2. Continuous
3. Perfect 4. Perfect Continuous
ส่วนหัวตารางด้านซ้ายในแนวนอนจะเป็น time
(เวลา) จะมี 3 อัน คือ
1. Present ( ปัจจุบัน) 2. Past (อดีต) 3. Future (อนาคต)
***ค่อยๆ
ดูไปด้วยกันทีละคอลัมน์ในแนวตั้ง เวลาอ่านชื่อ tense ก็อ่านช่องด้านซ้ายก่อน
แล้วก็ต่อด้วยช่องด้านบน
ช่องแรกคือ
Simpleง่ายสุดเลย
• Present Simple เป็นแบบที่เราเรียนกันมาง่ายๆ
เลย “Sub + V1” (เติม s/es เมื่อประธานเป็นเอกพจน์)
• Past Simple ก็ง่ายอีก “Sub
+ V2” ไปเลย ในเมื่อ V2
มันก็คือกริยาที่ใช้สำหรับในอดีตอยู่แล้ว
• Future Simpleเอา “Sub
+ will + Vinf” โดยที่คำว่า will แปลว่า
"จะ" มันจะทำหน้าที่เป็นกริยาช่วยในประโยค ตามด้วย Vinf ก็คือ Verb ที่ไม่เปลี่ยนไม่เติมอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
หรือแบบที่เราจำกันมาตลอดว่า Sub + will + V1 นั้นแหละ
เราก็จำว่า ถ้าจะบอกว่า จะทำนู้น จะไปนี่ จะเอานั่น เราก็แค่ใช้ “will +
verb” ข้างหลังที่ไม่ต้องไปเติมไรให้มันอีก เพราะ will บอกไปหมดแล้วว่ามันเป็นอนาคต เราเหลือแค่ต้องบอกว่าจะทำอะไร แค่นั้นพอ
อย่าเยอะ!
ช่องที่สองคือ
Continuous รูปประโยคของมันจะเป็น
V. to be + Ving
(Verb to be ก็คือ is am are เป็น อยู่ คือ ที่ท่องกันมานั้นแหละ)
"มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to be + Ving โดยที่เราผันตัว
V.to be ไปตามเวลาของมัน แต่ Ving คงเดิมตลอด
เพราะตัวที่บอกความเป็น Continuous คือ Ving"
• Present
Continuous ก็เลยจะเป็น Sub + is/am/are + Ving ดังนั้นเมื่อไหร่เจอ I'm kicks. I'm loves. ผิดทันที!!!
แต่ถ้าเจอ I'm kicked. I'm loved. อาจจะไม่ผิดนะ
เป็นรูปประโยคแบบ Passive Voice ต้องแปลความหมายเอา แต่พวก I'm
said....ผิดทันที
• Past Continuous รูปประโยคแบบเดิมเปี๊ยบแต่เราผันตัว
is/am/are ให้กลายเป็นอดีตไปซะ ก็จะได้เป็น Sub +
was/were + Ving
• Future Continuous พอเป็นอนาคต
เราก็ต้องใช้ “will” มาบอกว่าเรา "จะทำ" แล้วหลัง will
มันต้องไม่เปลี่ยน ไม่เติมอะไร เราก็เลยได้เป็น “Sub + will
+ be + Ving” และ “be” ตรงกลางนั่นก็มาจาก V.
to be ไง จำได้มั้ยรูปประโยคต้องเป็น V.to be + Ving ตลอด
สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Continuous ในแนวตั้ง
ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน
จะมีกรอบสีเหลืองที่เป็น V.to be ตลอด
และที่สำคัญที่สุดคือ มีตัวสีส้ม คือ Ving ตลอด !!!!!!!!!
ช่องถัดมาคือ
Perfect รูปของมันจะเป็น
V. to have + V3 (ที่ดูเหมือนยาก แต่ก็ไม่ยากเลย)
"มันจะอยู่ช่วงเวลาไหน มันก็เป็น V.to have + V3
โดยที่เราผันตัว V.to have ไปตามเวลาของมัน แต่ V3 คงเดิมตลอด เพราะตัวที่บอกความเป็น Perfect คือ V3"
• Present Perfect
ก็เลยเป็น "Sub + has/have + V3"
ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ (He, She,I t, คน สัตว์ ของ 1 อัน)
ก็ใช้ "has" ถ้าเป็นพหูพจน์ (You, We,
They, คน สัตว์ ของมากกว่า 1) ก็ใช้ "have"
• Past Perfect แบบประโยคเหมือนเดิม แต่เราต้องทำ has/have ให้มันเป็น
ช่อง 2 เพราะ V2 คือ V ที่บอกอดีต
แล้วช่อง 2 ของ has/have ก็คือ had เราเลยได้เป็น
"Sub + had + V3" อุต๊ะ ง่ายจิมจิม!!
• Future Perfect พอเป็นอนาคตก็ต้องบอกว่า
"จะ..." เหมือนเดิม ได้เป็น "Sub + will + have + V3" เพราะหลัง will บอกแล้วว่า verb มันต้องธรรมดา ไม่เติม ไม่เปลี่ยน เลยต้องกลับมาใช้ have ธรรมดา แล้วก็ตามด้วย V3 ซะ ได้ Perfect ด้วย แล้วยังเป็น Future อีกต่างหาก
***และใช้ have อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ has
จำซะว่าเราเน้นบอกว่ามันเป็นอนาคต ส่วน Perfect เราแค่มี have + V3 มันก็ perfect แล้วไง ไม่ต้องไป has ให้มันเยอะ!!
ดังนั้นเมื่อไหร่ใช้ will has ..... หรือ will
had..... หรือ will
v3..... ผิดทันที !!!!!!!!***
สรุป ไปดูในรูปจะเห็นว่า ช่อง Perfect ในแนวตั้ง
ไม่ว่าจะช่วงเวลาไหน
จะมีกรอบสีพีชที่เป็น V.to have ตลอด
และที่สำคัญที่สุดคือ มีตัวสีชมพู คือ V3 ตลอด !!!!!!!!!
สุดท้ายยยยยก็คือ
Perfect Continuous
"ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Perfect Continuous มันก็เลยต้องมีทั้ง
Perfect คือ have + V3 แล้วก็ Continuous
ก็คือ Ving ด้วย รูปประโยคของมันก็เลยเป็น Sub
+ V. to have + V.3 (ซึ่งในที่นี้คือ been ซึ่งเป็นช่อง
3 ของ be) + Ving"
• Present Perfect Continuous จากรูปแบบมันเราเลยได้เป็น
"Sub + has/have + been + Ving" โดย has/have
been ก็บอกความเป็น perfect ส่วน Ving ก็บอกความเป็น Continuous จับมาต่อกัน
• Past Perfect
Continuous จับ has/have มาทำเป็นอดีตซะ
ที่เหลือไม่ต้องเปลี่ยน ก็ได้เป็น “Sub + had + been + Ving” ซึ่ง had ก็บอกว่าเป็นอดีต แล้ว had+been ก็บอกความเป็น perfect แล้ว Ving ก็บอกความเป็น Continuous ครบ!!!
• Future Perfect
Continuous เป็น future เมื่อไหร่ ใช้ will
เมื่อนั้น! มี will เมื่อไหร่หลัง will
เป็น have เท่านั้น เราก็เลยได้ว่า “Sub
+ will + have + been + Ving” โดย wil บอกความเป็นอนาคต
have been บอกความเป็น perfect แล้ว Ving
ก็บอกความเป็น Continuous !!!!!
***ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ใช้***
will + has + been + Ving ผิดทันที!
will + been + Ving ผิดทันที!
will + have + be + Ving ผิดทันที
!!!!!!!
No comments:
Post a Comment